ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง สำหรับเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของ M&M’s แบรนด์ช็อกโกแลตสุดปัง

ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง

ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง จุดแรกเริ่มของ M&M’s นั้น ก็คือชายที่ชื่อว่า “Frank C. Mars” เจ้าของบริษัท Mars ที่เป็นโรงงานผลิตขนมในสหรัฐอเมริกา

ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง Frank C. Mars อยู่ในวัยที่ใกล้เกษียณตัวเอง มีความคิดอยากจะให้ลูกชาย คือ “Forrest Mars Sr.” ได้มีโอกาสไปดูงานที่ต่างประเทศ เพื่อนำความรู้มาใช้บริหารงานบริษัท

ช็อกโกแลตที่แพงที่สุดในโลก ในตอนที่อยู่ต่างประเทศ Forrest ได้พบว่าได้ว่าทหารอังกฤษนั้น ชื่นชอบช็อกโกแล็ตเม็ดเล็ก ๆ ที่ลักษณะคล้ายเม็ดยา ไม่เพียงเท่านั้นช็อกโกแลตนี้ ยังไม่ละลายในอากาศร้อน และแถมพกพาสะดวก เขาจึงได้เกิดไอเดียอยากจะทำขึ้นมา

พอกลับถึงสหรัฐอเมริกา เขาได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารแทนพ่อ แต่เนื่องจากมุมมองในการทำธุรกิจของเขา กับพ่อที่ไม่เหมือนกัน เขาจึงได้ตามหาหุ้นส่วนเพื่อทำธุรกิจ และเขาได้เจอกับ “Bruce Murrie” ซึ่งเป็นลูกชาย “William Murrie” เจ้าของ บริษัท Hershey ที่มีชื่อเสียงในเรื่องช็อกโกแลต

ซึ่ง Murrie เขาได้มีมุมมองการทำธุรกิจ ที่ไม่เหมือนกับพ่อ และพอ Forrest ได้เจอกับ Murrie ทั้งคู่ก็เข้ากันได้ดี และร่วมกันก่อตั้งบริษัท “Mars & Murrie” ที่รู้จักกันว่า “M&M”และเริ่มทำช็อกโกแลตเม็ดเล็กวางจำหน่าย

ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง

แต่เดิมที M&M’s ได้จำหน่ายช็อกโกแลตให้กับกองทัพสหรัฐ

ซึ่งมีรายได้นั้นพุ่งสูงและเสียงตอบรับที่ดี เพราะว่าสามารถพกพาง่าย อีกทั้งทนต่ออากาศร้อนได้ เนื่องจากยอดขายดีมาก ส่งผลให้ธุรกิจเติบโต ในเวลาต่อมา Forrest และ Murrie ก็ได้ทะเลาะกัน Forrest ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ Murrie และหลังจากนั้นเขาก็ได้เป็นเจ้าของบริษัทคนเดียว

M&M’s นั้นได้เข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญ กับการเข้าร่วมในยานอวกาศที่ชื่อว่า “Columbia” โดยการเป็นของว่างให้กับนักบินอวกาศ ถือว่า M&M’s นั่นคือขนมแบรนด์แรก ที่ได้ไปยังอวกาศและจนถึงปัจจุบัน ช็อกโกแลตยี่ห้อนี้ ก็ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งกระบวนการทำ ยังได้เก็บเป็นความลับ

หลายคนพูดกันว่า กระบวนการผลิตคือความลับ ซึ่งเคยมีเหตุการณ์ที่ช่างต้องเข้ามา ดูแลเครื่องจักรของโรงงาน ยังต้องมีผ้าปิดตาตอนที่เดินเข้าในโรงงาน มีการเปิดเผยว่ายอดขายของบริษัท สามารถทำรายได้สูงถึงปีละ 37,000 ล้านดอลลาร์ (เงินไทย 1.55 ล้านล้านบาท) ในปัจจุบันช็อกโกแลตยี่ห้อนี้ ยังเป็นขนมสุดฮิต อีกทั้งมีวางจำหน่ายอยู่ทั่วโลก

ดาร์กช็อกโกแลต ยี่ห้อไหนดี ช็อกโกแลตนั้น ในภาษาละตินเรียกต้นโกโก้ ก็คือ Theobroma cacao แปลว่า “อาหารของเทพเจ้า” เนื่องจากส่วนของผลที่รสชาติดี จากต้นโกโก้นั้น เรียกได้ว่าของเทพเจ้าจริง ๆ ยุคก่อนผู้คนส่วนใหญ่นั้น เชื่อว่าผลโกโก้มีสรรพคุณที่วิเศษ อีกทั้งยังศักดิ์สิทธิ์

โดยมีการนำมาใช้ใน พิธีการที่ศักดิ์สิทธิ์ ในตอนเกิด งานแต่งงาน และการตาย ในช่วงศตวรรษที่ 16 ช็อกโกแลตนั้นคือเครื่องดื่ม ที่ยอดนิยมของชนชั้นสูงในยุโรป เพราะมีเรื่องเล่าว่ามีคุณสมบัติทางโภชนาการ อีกทั้งเป็นยาบำรุง

ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง

ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง ในยุคก่อนบรรดาคาสโนว่า ชื่นชอบในรสชาติของโกโก้เป็นพิเศษ

ที่ผ่านมาช็อกโกแลตมักจะคิดว่าเป็นสิ่งไม่ดี เป็นต้นตอของสาเหตุการเกิด สิว ทำให้อ้วน และคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช็อกโกแลตได้กลายเป็นสิ่งที่ดี ในความเห็นของบรรดานักโภชนาการ

เพราะว่ามีการวิจัยมีประโยชน์กับสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงโรคหัวใจล้มเหลว จากการวิจัยในเดนมาร์กที่เผยแพร่ลงวารสาร BMJ Heart มีข้อมูลว่าการที่กินช็อกโกแลต ในปริมาณไม่เนอะทุกอาทิตย์หรือสองครั้ง ทำให้ป้องกันการเกิดภาวะหัวใจ ห้องบนเต้นผิดปกติ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีความเชื่อที่มากมาย เกี่ยวกับช็อกโกแลต มีเรื่องใดบ้างที่จริง หรือไม่จริง และความเชื่อพวกนี้ มีข้อมูลสนับสนุนเพียงใด มาดูกันเลยค่ะ

  • ช็อกโกแลตเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี

ถ้าคุณ หยุดกินช็อกโกแลต เพราะอยากจะลด คอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอลไม่ดี) คุณคงเสียสละบางสิ่ง ไปอย่างสูญเปล่า เนื่องจากว่าในส่วนผสมของช็อกโกแลต นั้นมีเนยโกโก้ที่เป็นไขมันอิ่มตัวสูง

ซึ่งไขมันส่วนมากนั้นมาจากกรดสเตียริก โดยถือว่าไม่เหมือนไขมันอิ่มตัว จากในงานวิจัยพบว่าช็อกโกแลต ไม่ได้ทำให้คอเลสเตอรอลที่ไม่ดีสูงขึ้น อีกทั้งสาเหตุก็คือในบางคน ช็อกโกแลตยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย

  • ช็อกโกแลตมีคาเฟอีนปริมาณมาก

ผงช็อกโกแลตยี่ห้อไหนอร่อย ซึ่งประเด็นนี้ ต้องขอบอกเลยว่า ไม่ใช่ความจริงซะเลย นั้นมีเรื่องเล่าขานต่อกันว่า ช็อกโกแลตไม่ได้มีปริมาณ ส่วนผสมของคาเฟอีน ช็อกโกแลตยี่ห้อ Hershey ปริมาณคาเฟอีน 8 มิลลิกรัม ซึ่งเปรียบกับคาเฟอีน 385 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณกาแฟแก้วไซส์กลางของ Starbuck

ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง

น้ำตาลในช็อกโกแลตทำให้สมาธิสั้น

ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนเชื่อว่าการที่ได้รับน้ำตาลปริมาณสูง ของช็อกโกแลตส่งผลให้เด็ก ๆ มีสมาธิสั้น อยู่ไม่ค่อยนิ่ง อีกทั้งยังวิ่งเล่นวุ่นตลอดเวลา แต่การวิจัยจำนวนมาก ไม่พบความเกี่ยวข้องเรื่องน้ำตาลที่เป็นส่วนผสมช็อกโกแลต ที่ส่งผลต่อเรื่องสมาธิสั้นในเด็ก

ซึ่งการเกิดสมาธิสั้นในเด็ก นั้นมีอยู่สองประเด็น ก็คือ ประเด็นแรกเกิดจากสภาพแวดล้อม อาจกระตุ้นความตื่นเต้นให้กับเด็ก อย่าง งานปาร์ตี้วันเกิด เทศกาลต่าง ๆ ฯลฯ ประเด็นที่สองความเกี่ยวเนื่อง ที่มาจากความคิดเองว่า

เด็กจะมีอาการสมาธิสั้น ตามน้ำตาลใน ช็อกโกแลต ที่ได้กินเข้าไป ไม่เพียงเท่านั้น ร่างกายเด็กอาจมีการรับรู้ต่อคาเฟอีนสูง ถ้ามีการกินช็อกโกแลต เข้าไปเยอะมากเกินไป ก็อาจทำให้มีผลกับอารมณ์ รวมถึงการนอนหลับ

  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรทานช็อกโกแลต

ผู้ป่วยเบาหวานอาจจะไม่ต้อง ถึงกับหยุดการรับประทานช็อกโกแลต ซึ่งเรื่องนี้คนส่วนใหญ่มักจะแปลกใจ เมื่อทราบว่าช็อกโกแลตพบค่าน้ำตาลที่น้อยมาก จากงานวิจัยยังพบว่าดาร์กช็อกโกแลต มีส่วนช่วยเรื่องความไวของอินซูลิน กับบางคนที่เป็นโรคเบาหวาน

  • การกินน้ำตาล รวมถึงช็อกโกแลต ทำให้ระดับความเครียดสูงขึ้น

ไวท์ช็อกโกแลต ยี่ห้อไหนดี มีงานวิจัยพบว่า หากได้ทานดาร์กช็อกโกแลต ประมาณออนซ์ครึ่งทุกวัน ติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ มีส่วนในการลดระดับฮอร์โมนความเครียด ในร่างกายขณะที่มีความเครียดได้อย่างดี

ช็อกโกแลตไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ

จากการวิจัยในแง่วิทยาศาสตร์ ที่ส่งผลประโยชน์กับสุขภาพ ในช็อกโกแลตนั้นหลากหลาย บางคนมีความสงสัยว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่ช็อกโกแลตมีคุณค่าทางโภชนาการเท่าไหร่ ดาร์กช็อกโกแลตโดยปกติ นั้นมีส่วนช่วยในเรื่องต่อต้านอนุมูลอิสระมาก มีปริมาณพอ ๆ กับชาเขียวปริมาณ 3 ถ้วยครึ่ง ไวน์แดง 1 แก้ว หรือบลูเบอร์รี่ 1 ถ้วย นอกจากนี้ช็อกโกแลตยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และเส้นใยอาหารอีกด้วย

  • ในช็อกโกแลตควรมีโกโก้อย่างน้อย 80% ถึงจะดีกับสุขภาพ

นี่คือสิ่งที่นักโภชนาการแนะนำ ในการรับประทานดาร์กช็อกโกแลต นั้นควรมีโกโก้ผสมอยู่ในนั้นอย่างน้อย 80% เพื่อจะเป็นประโยชน์กับสุขภาพ ซึ่งปกติแล้วการที่ช็อกโกแลตนั้นเข้มขึ้น เท่ากับว่าจำนวนสารต้านอนุมูลอิสระก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย

  • ช็อกโกแลตเป็นสาเหตุของสิว

วัยรุ่นส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า ช็อกโกแลตเป็นสาเหตุของสิว ซึ่งมีงานวิจัยย้อนหลังไปถึงปี 1958 ที่ไม่มีการพบความเชื่อมโยง ระหว่างการกินช็อกโกแลตเกิดสิวได้ อีกทั้งยังมีงานวิจัยจาก Journal of American Medical Association เปิดเผยว่า ช็อกโกแลตไม่ได้มีผล ในเรื่องการรักษาสิวของผู้คนส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าการกินช็อกโกแลตปริมาณมาก นั้นไม่ส่งผลให้สิวรุนแรงขึ้นแต่อย่างใด

เรียบเรียงโดย อลิส

Scroll to Top